โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์

โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟ ฮีโร่ศูนย์หน้าร่างใหญ่ คว้าแชมป์ยูโร ผู้อำนวยการ ฟุตบอลเยอรมัน ในปัจจุบัน

 โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟ ฮีโร่ศูนย์หน้าร่างใหญ่ คว้าแชมป์ยูโร ผู้อำนวยการ

โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟ จอมโขกที่ไม่สับ วินาทีฮีโร่ ของศูนย์หน้าร่างใหญ่ ผู้นี้เกิดขึ้นในปี 96 เขายิง โกลเด้นโกล ให้เยอรมันคว้าแชมป์ยูโรได้ ศูนย์หน้าที่ค่อนข้างโนเนม จาก อูดิเนเซ่

โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟ ตัวล่าสกอร์ให้ เอซีมิลาน

เริ่มตำนานฉบับ ของเขาอย่างเป็นทางการ ได้ไปเล่นเป็น ตัวล่าสกอร์ให้ เอซีมิลาน แล้ว Landing อาชีพ ได้ค่อนข้างงดงาม ก่อนจะมาเป็น ผู้อำนวยการ ฟุตบอลเยอรมัน ในปัจจุบัน นี่คือหนึ่งในตำนาน โอลิเวอร์เบียร์โฮฟ

ไม่มีสเต็ปเทพ อะไรเลยแต่แน่น ลูกยิงนั้นก็ ไม่ได้หวือหวา สับขากระชาก อะไรแต่แม่น เจ้าเวหาคง เป็น ชื่อกลางของเขา ตลอดเวลาของอาชีพ เบียร์โฮฟ เก็บหอมรอมริบ ประสบการณ์ยาวนานพอสมควร

โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์

กว่าจะสร้างชื่อได้ ค่าพลังที่เน้นหนัก เป็นที่รู้จักของเขา คือการทะยานขึ้น ไปบนอากาศ แล้วโขกบอลเน้นๆ ให้มันเป็นประตู เขาทำอะไร แบบนี้ได้บ่อยครั้ง จนสามารถเรียกได้ว่า เป็น Signature เฉพาะตัว

และอีกอย่างหนึ่ง ที่ถือเป็นสกิลรองนั่นคือ จังหวะเก็บบอลอันเหนียวแน่น แย่งยากแย่งเย็น จากร่างกายหนาหนัก สูงใหญ่ 191 เซน ที่ถูก Control โดยสมอง ที่ฉลาดเป็นกรด เกิดในครอบครัว ระดับไม่ปานกลาง เข้าขั้นมหาเศรษฐี พ่อของเบียร์ โฮฟ_โรล์ฟ เป็นนักธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จ ในธุรกิจพลังงาน เป็นคู่มั่งมี ในทรัพย์สิน ระดับเจ้าสัว

วัยเด็กของเขา จึงไม่แร้นแค้น ต้องต่อสู้ฝ่าฟัน อะไรมากมาย เขาใช้ชีวิต แบบเด็กยุโรป ที่มีฐานะ เล่าเรียนในหลากหลายศาสตร์ ทั้งในห้องเรียน และนอกห้องเรียน ระหว่างนั้นพ่อเขา แอบผลักดันอยู่ห่างๆ

ปลูกฝังความคิด ที่ดีเยี่ยมให้ ลูกเขาเรื่อยๆ เส้นทางใครเส้นทางมัน ลูกคนรวย ที่ไม่ได้เอาแต่ รอสมบัติพ่อ หลายคนคิดแบบนี้ ลูกของโรล์ฟ ก็คิดแบบนี้ เบียร์โฮฟ ไม่ได้เอาเท้าตัวเอง เข้าไปวัดใน รองเท้าของพ่อ เขาเริ่มต้นอาชีพ อย่างเงียบเชียบ

ในตำแหน่ง Striker ได้เล่นบ้างไม่ได้เล่นบ้าง ยิงประตูได้น้อยนิด พเนจรเล็กน้อย ช่วงปลายยุค 80 เคยได้เล่นให้ กับทีมใหญ่อย่าง ฮัมบูร์ก กับมึนเช่นกลัดบัค แต่ลีกเยอรมัน ในตอนนั้นคงยาก เกินไปสำหรับเขา เขาจึงเลือกย้ายประเทศ ไปเล่นในลีก ออสเตรีย

เพื่อนบ้านกับซัลบวร์ก เพื่อประคบประหงม ความรู้สึกผิดหวัง พักใจไปไม่นาน พลังกลับมาเฉย เขาเริ่มยิง เรียกความมั่นใจได้ แม้หลีกจะดูรองๆ แต่มันก็เป็น ผลดีกับอาชีพอย่างมาก เขาปิด Season ที่ 23 ประตู จาก 33 นัด

โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์

เริ่มต้นอาชีพ อย่างเงียบเชียบในตำแหน่ง Striker

Ascoli ติดต่อมาว่า สนใจอยากจะร่วมทีมไหม เขาตอบตกลง ไปอิตาลี เซเรียบี คือพื้นที่ประจำ ของ Ascoli สโมสรที่เกาะ ตารางลีกรองนี้ ไว้เหนียวแน่นในยุคนั้น มีไปเซเรียเอบ้าง แต่หลายครั้งก็ ต้องกลับมาใน ที่ๆคุ้นเคย

เบียร์ โฮฟได้เริ่มอาชีพใหม่ของเขา ที่ท้าทายขึ้น พอประมาณจากลีกออสเตรีย พัฒนาการเกิดขึ้นไม่หยุด เริ่มแรกแฟนบอล ดูจะไม่ค่อยชอบเขา แต่ภายหลัง ก็ยอมรับใน ตัวเขาจนได้ เรื่องนี้ชัดที่สุดตอนซีซั่นที่ 2 เบียร์ 6 ปิดปีที่ดาวซัลโวลีกรอง นั่นทำให้นาม เขาก็ปรากฏบน แผนที่โลกฟุตบอล

เขาล่าสกอร์อยู่ที่นี่อีก 2 ปี อูดิเนเซ่ ภายใต้ฝีมือของ ซัคเครโรนี่ ก็จับเซ็นสัญญา ขยับเวล ขึ้นมาเล่นใน เซเรียเอ เขาขึ้นมาเป็นหน้าเป้าระดับ Top ได้ ระหว่างที่อยู่กับ อูดิเนเซ่ แผนการเล่นของเพื่อนร่วมทีม

ของโค้ชทุกอย่าง เป็นใจให้เขา ร้อนจัดขึ้นมาได้ในที่สุด แม้จะถูกตั้งแง่ว่า เขาเป็นผู้เล่นที่ไม่มีลีลาแบบกระชากลากทะลวง ดูพืชไร้มิติ ก็จริงถ้าอยู่บนพื้นดิน แต่ทางอากาศ เขากลับมีเทคนิค สะบัดหัวคุมทิศทาง

เหมือนกับหัวเขา มีคลิปพิเศษคอนโทรลลูกฟุตบอล ไม่ใช่โมงไปแบบทื่อๆ ไร้จินตนาการ หลายครั้งที่การโหม่งบอลของเขา มันสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้แฟนบอล มันเป็นการโหม่งที่ไม่ได้หลับตาปี๋แล้วโหม่ง เขามองบนได้เหมือนคิดมาแล้ว

ว่าบอลจากหัวเขาจะไปที่ไหนต่อ ทั้งตั้งบอลให้เพื่อน หรือจะเลือกยิงจากหัว ทั้งแรงทั้งเบา ทั้งเฉือนทั้งเช็ด ลูกโหม่งแบบย้อยๆก็มีให้เห็น เขาอันตรายที่สุดในกรอบ เขาในยุคนั้นไม่ต่างอะไรกับผู้เชี่ยวชาญที่บรรลุศาสตร์แห่งการโหม่ง ทำได้ทุกอย่าง

ส่วนที่เหลือมันคือไหวพริบบวกกับความคิดความฉลาดเล่น เขาสร้างมิติเกมรุกใหม่ๆให้ทีมได้เสมอเมื่อลงเล่น นี่คือสิ่งที่ทำให้เขาโด่งดังขึ้นมาเป็นอย่างมากผลลัพธ์ของการดวลกับยอดกองหลังจากที่เกมรับยางอิตาลี เกมแล้วเกมเล่า ทำให้เขาเก่งขึ้นจนน่าตกใจ ทั้ง Score ทั้งสไตล์

การเล่นเป็นข้อมูลที่หลั่งไหล ช่างพูจนไปเข้าทีมสต๊าฟทีมชาติ แล้วได้ไปลุยยูโรปี 96 ที่จัดขึ้นที่อังกฤษ ในฐานะผู้เล่นโนเนม และ Tournament นั่นเองที่วินาทีฮีโร่ของเขาเกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง หลังถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนัดชิงชนะเลิศยูโรกลับเช็ก

โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์

โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟ เจ้าของลูกโหม่ง Signature

เบียร์โฮฟ กดลูกโหม่ง Signature ให้เยอรมันตีเสมอได้ก่อนที่ช่วงต่อเวลา เขาจะรับบอลในกรอบบางไว้แล้วฉวยโอกาสพลิกตัวซัดเข้าไป เป็นโกลเด้นโกล ให้เยอรมันได้ยกถ้วยแชมป์ยูโรได้แบบยิ่งใหญ่ แล้วก็ยังติดทีมชาติเยอรมันไปฟุตบอลโลกปี 1998 พร้อมกับทำไปได้ 3ประตู

ในบอลโลก86นัด ที่รับงานยิงให้อูดิเนผเซ่ เขายิงไปถึง 57 สกอร์ ปิดปี 97 กลับอูดิเนเซ่ ที่27 ประตูในหลีก คว้าดาวซัลโวกัลโช่ ในจำนวนนี้เป็นลูกโหม่งซะเยอะ สกอร์ที่เขาทำได้ในปีนั้น เหนือ Ronaldo r9 เนื้อบาติสตูต้า เหนือโรเบโต้บักโจ้ และเดลปิเอโร่ เขากลับแนวรุกอันตรายของอูดิเนเซ่

รังสรรค์เกมรุกน่ากลัวจนไปจบตารางที่อันดับที่ 3 ผลงานสนั่นลีกแบบนี้ ทีมใหญ่ต้องเข้าแล้ว และเป็น AC Milan รับช่วงเหมาทั้งโค้ช ซัคเครโรนี่ ของอูดิเนเซ่ และตัวเขาไปสร้างความวายป่วงให้คู่แข่งต่อในซีซั่น 98-99 ในวัย 30

ที่หลายคนมองว่าเป็นวัยเริ่มต้นขาลงของผู้เล่นกองหน้า แต่ตอนนั้นอายุกับทำอะไรเขาไม่ได้ เขายิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ แล้วร่างกายได้เป็นที่น่าประทับใจ การได้เล่นกับจอร์จเวอาห์ ที่เพิ่งได้บัลลังดอมา ก็สามารถขับฟอร์มของเขาได้อย่างมาก 3 ปีในเวทีหญ้าที่มิลาน เขามี 1 แชมป์กัลโช่ประสบการณ์เพิ่มขึ้น แต่สังขารร่วงโรย

นักเตะที่อายุไม่สามารถทำอะไรเขาได้

อังเดรเชฟเชนโก้ ถูกซื้อเข้ามาเสริมทัพ เขายอมรับแล้วย้ายลีกอีกครั้ง ไปโมนาโก ช่วงนี้ก็เหมือนเขาจะหมด แต่ยังพอยิงได้ แล้วก็ได้ย้ายกลับมาเซเรียอาอีกครั้ง ที่คิเอโว แล้วฝากผลงาน แบบเสือเฒ่าเก๋าประสบการณ์ ที่ 30 นัดลั่นไป 7 ประตู เขาเป็นกองหน้าเยอรมันแท้ๆ

เป็นฮีโร่ของชาติจริงๆ แต่กลับไม่ได้สร้างชื่อในลีกบ้านเกิดเลย เติบโตมาด้วยความเชื่อล้วนๆ ว่าจะไปได้ดีในอาชีพทั้งทั้งที่บ้านก็รวย ไม่เห็นต้องไปเดือดร้อนดิ้นรนในอาชีพนักฟุตบอล แล้วทำอาชีพมีสะดุดล้มคว่ำคะมำบ้าง

ก็นั่นแหละส่วนหนึ่งของชีวิต สู้แค่ไหนก็สู้จนจะเข้า 30 แล้ว กว่าจะไปได้ดีจริงๆ กับลีกที่เหมาะกับการเล่นของเขาจริงๆที่อิตาลี ฟุตบอลมันก็แบบนี้แหละ หลากหลายตำนานที่เกิดขึ้น เพราะไม่ได้ตั้งเป้าตั้งใจให้เกิดก็อาจจะเกิดขึ้นได้

มีแต่ความมุ่งมั่นไม่ล้มเลิกต่างหากที่มีบทบาทต่อทุกตำนานที่เกิดขึ้น ทุกวันนี้เขาเข้าเป็น Hall of fame ของเอซีมิลาน ชื่อชั้นของเขายังเป็นที่พูดถึงเสมอ เมื่อถูกโยนเข้าในวงสนทนา ของคอบอลว่าใครเป็นเจ้าแห่งเวหาในวงการงานการที่เขาทำอยู่ในปัจจุบัน ก็ยังคงใช้หัวอยู่เพียงแต่ หัวของเขาไม่ได้เอาไว้โหม่งเพียงอย่างเดียวแบบเมื่อก่อน ที่ยังเป็นสไตรเกอร์ มันถูกเอามาใช้คิดงานวางแผนให้กับ Directorทีมชาติเยอรมัน บทความกีฬาที่น่าสนใจ

Miss M