ทูเคิ่ลคนดี มีนักเตะ มากถึง 7 คน ที่ผลการตรวจโควิดออกมาเป็นบวก
ทูเคิ่ลคนดี ไม่ว่าลูกทีมไม่ฉีดวัคซีน โควิด-19
ทูเคิ่ลคนดี ได้ออกมาแถลงก่อนการเตะ คาราบาวคัพ ของทีม เชลซี ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เผยว่า มีนักเตะ มากถึง 7 คน ที่ผลการตรวจโควิดออกมาเป็นบวก แต่มี จอร์จิญโญ่ ที่ผลตรวจคลาดเคลื่อนจึงทำให้จะกลับมาคืนสู่สนามได้
ถึงแม้ เชลซี จะสามารถชนะเพียง 1 นัด จาก 5 เกมส์ จากทุกรายการ เพราะมีส่วนจากที่นักเตะติดโคววิด ก็ต้องแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้ากันไป
ทูเคิ่ลกล่าวว่า “ผมไม่ได้ต้องการจะมีส่วนในการต้องมานั่งหาคนผิด หรือ ใครก็ตามที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน” “มันเป็นทางเลือกส่วนบุคคลที่ต้องตัดสินใจกันเอาเอง” “ส่วนตัวผมเองได้รับวัคซีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมขอไม่เสนอมุมมองใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง”
แต่มันปฏิเสธไม่ได้เลย ว่า เรื่องโควิดเข้ามามีผลกระทบในการจัดทีมลงแข่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้จะมีขุมกำลังที่แกร่งแค่ไหน ถ้ามีนักเตะที่ต้องมาเจอการติดเชื้อที่ต่อเนื่อง มันก็ส่งผลถึงผลงานของทีมนั้นๆ โดยปริยาย
จากสถิติ ในพรีเมียร์ลีกของ อังกฤษ มากถึง 16 % ไม่รับการฉีดวัคซีน โควิด-19,84 %รับการฉีด 1 เข็มเป็นอย่างน้อย และ อีกกว่า 77 % ที่ครบโดสแล้ว
ซึ่ง ณ ตอนที่ เชลซี ประสบปัญหาการติดโควิด-19 ในแคมป์ ประกอบไปด้วยนักเตะดาวดัง ระดับโลก ที่เป็นขุนพลกำลังหลักของ สโมสรทั้งสิ้น เรียกได้ว่า ขาดเธอขาดใจ ขาดไต ก็ หัวใจวาย
ได้แก่ โซโลมอง ลูกกากู,ติโม แวร์เน่อ,เบน ซินเวล และ คาลัมฮัดสัน-โอดอย ถึงสองรายหลัง จะไม่ดังเท่าสองรายแรก แต่ ก็ถือว่า เป็น ขุนพลชั้นดีของ ทูเคิ่ลทีเดียว
และ เจ้าตัวก็ยอมรับว่า บางจุดตนเองก็มีส่วนผิดพลาดในการ ใช้นักเตะบางรายจนบอบช้ำมากจนเกินไป
(สังเกตุได้ว่า ทุกคำให้สัมภาษณ์ข่าวของ ทูเคิ่ล จะเน้นความมั่นใจในขุมกำลัง และ ตอกย้ำว่า ขุมกำลังที่เขามีนั้น แข็งแกร่งเสมอไม่ว่าจะขาดใครไป)
และ ทูเคิ่ล ก็สามารถทำได้จริงๆ แม้จะประสบปัญหาที่เรียกได้ว่า ไม่มีกุนซือคนไหนอยากเจอ ปัญหาที่ปวดเศียรเวียนเฮด เช่นนี้นัก โดย ทูเคิ่ลใช้เทคนิค อีกอย่างในการฝ่าฟันอุปสรรคการจัดตัวมาด้วยวิธี ตัดผู้เล่นที่คิดว่ามีอัตราเสี่ยงออกล่วงหน้า ไม่ว่าคนนั้น จะเป็นขุมกำลังหลัก หรือ ฝีเท้าฉกาลแค่ไหน เช่น ไค ที่ผลตรวจยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเป็น บวก แต่ ทูเคิ่ลตัดสินใจ พักไว้ก่อนไม่นำเข้ามาสู่ขุมกำลังในการจัดทัพลุยศึก เป็นการจัดการที่เด็ดขาด และชาญฉลาด
